เชื่อว่าผู้กระกอบการหลายๆท่าน รวมถึงประชานชนทั่วไปคงคุ้นชินกับคำว่าภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ประกอบการ หากมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ หรือผู้นำเข้าที่นำเข้าสินค้าก็จะต้องอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย
แต่ปัญหาคือถ้าเป็นกรณีที่รายได้นั้นไม่ได้เกิดจากการขายสินค้า หรือให้บริการ หรือการนำเข้าสินค้า ตามที่กฎหมายได้กล่าวไว้ จะยังต้องนำรายได้ส่วนนั้นมาคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
โดยหลักกฎหมาย คำตอบจริงๆ คือ ไม่ต้องนำรายได้ส่วนนั้นมาคำนวณเพื่อเสียภาษีภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากรายได้ส่วนนั้นไม่ได้มาจากกิจการที่อยู่ภายใต้บังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 ของประมวลกฎหมายรัษฎากร ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักกฎหมาย รายได้จากการบริจาคในรูปแบบตัวเงินก็ไม่ควรที่จะอยู่ภายใต้บังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว เงินบริจาคอุดหนุนซึ่งได้รับมานั้น จะไม่อยู่ภายใต้บังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็ต่อเมื่อ ผู้รับเงินบริจาคต้องปลอดภาระหน้าที่และต้องไม่กระทำกิจการสิ่งใดให้กับผู้บริจาคเป็นการตอบแทน
ในกรณีที่ผู้รับเงินบริจาค
มีภาระหน้าที่ หรือต้องกระทำกิจการสิ่งใดให้กับผู้บริจาคเป็นการตอบแทน
ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สัญญาที่ทำขึ้นระหว่างกันหรือข้อตกลงที่ทำโดยวาจาก็ตาม
ภาระหน้าที่หรือกิจการดังกล่าวก็จะถือเป็นรูปแบบของการให้บริการอย่างหนึ่งโดยถือว่าเงินบริจาคที่ได้มานั้นเป็นรูปแบบของค่าตอบแทนเพื่อบรรลุภาระหน้าที่หรือกิจการนั้น
และค่าตอบแทนดังกล่าวตกอยู่ในบังคับที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นเอง
อ้างอิง แนววินิจฉัย เลขที่ กค 0811/4654 และ กค 0706/พ./2697 ของกรมสรรพากร
เขียนและเรียบเรียงโดย รักพล สังษิณาวัตร
Email: rukphons@gmail.com
Tel: 095-390-8245
0 ความคิดเห็น