Ticker

6/recent/ticker-posts

วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ทางเลือกใหม่ของกิจการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม


แต่เดิมที หากกิจการใดที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อสังคม ก็มักจะถูกก่อตั้งในรูปแบบขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของมูลนิธิหรือสมาคม อย่างไรก็ตาม รูปแบบองค์กรเหล่านี้ไม่ได้สนับสนุนกิจการก่อให้เกิดรายได้ในเชิงพาณิชย์มากนัก และนอกจากนี้ บางรูปแบบองค์กร อาทิเช่น มูลนิธิ ซึ่งหากมีการเลิกหรือยุบมูลนิธิเกิดขึ้น ทรัพย์สินของมูลนิธินั้นจะตกเป็นของแผ่นดินโดยไม่ได้กลับคืนสู่ผู้ก่อตั้งแต่อย่างใดซึ่งเงื่อนไขแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับองกรณ์ธุรกิจมากนัก จึงเป็นที่มาของการกำเนิดวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งสามารถอยู่ในรูปแบบห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทได้ ที่ส่งผลให้สามารถดำเนินกิจการในเชิงพาณิชย์ที่ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลต่อการพัฒนาสังคม ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อมได้นั้นเอง

วิสาหกิจเพื่อสังคม คืออะไร?

บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิต การจำหน่ายสินค้า หรือการบริการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจ้างงานแก่บุคคลผู้สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ การแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอื่น เป็นเป้าหมายหลักของกิจการ โดยวิสาหกิจเพื่อสังคมจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

(1)               วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ไม่ประสงค์จะแบ่งปันกำไรให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น

(2)               วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ประสงค์จะแบ่งปันกำไรให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น

เงื่อนไขสำคัญในการจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม

เงื่อนไขหลักของวิสาหกิจเพื่อสังคมอย่างแรกก็คือ ต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 50มาจากการจำหน่ายสินค้าหรือการบริการ เว้นแต่ถ้าจะเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ไม่ประสงค์จะแบ่งปันกำไรให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นอาจมีรายได้น้อยกว่า 50มาจากการจำหน่ายสินค้าหรือการบริการได้

นอกจากนี้ วิสาหกิจเพื่อสังคมประสงค์จะแบ่งปันกำไรให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น กฎหมายได้กำหนดข้อแม้ไว้ว่าสามารถนำผลกำไรมาแบ่งปันให้ผู้เป็นหุ้นส่วนได้แค่เพียง 30ของกำไรเท่านั้น ส่วนกำไรอีก 70จะต้องนำไปลงทุนในกิจการเพื่อสังคมต่อไป

เงื่อนไขอื่นที่สำคัญอื่น ก็จะเกี่ยวกับระยะเวลาที่นิติบุคคลนั้นต้องดำเนินกิจการมาก่อนขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยนิติบุคคลจะต้องดำเนินกิจการเพื่อสังคมให้ครบอย่างน้อย 1 ปี ก่อน (ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เรื่องระยะเวลาดำเนินกิจการในการขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562)

สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคมมีอะไรบ้าง?

หลังจากที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) นิติบุคคลที่ได้เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมนั้น สามารถขออนุมัติจากกรมสรรพากรเพื่อขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ ซึ่งสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคมจะอ้างอิงจาก พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 621) พ.ศ. 2559 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 291) ซึ่งได้สรุปไว้ในตารางด้านล่าง เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น

กรณีของวิสาหกิจเพื่อสังคม

ประโยชน์สำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม

ประโยชน์สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้สนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม

1.วิสาหกิจเพื่อสังคมไม่จ่ายเงินปันผลหรือส่วนแบ่งของกำไร

ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

          · ผู้ลงทุนในหุ้นสามัญของวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถหักรายจ่ายได้

          · ผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินสามารถหักรายจ่ายได้

2. วิสาหกิจเพื่อสังคมที่จ่ายเงินปันผลหรือส่วนแบ่งของกำไรไม่เกินร้อยละ 30

ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

3. วิสาหกิจเพื่อสังคมที่จ่ายเงินปันผลหรือส่วนแบ่งของกำไรเกินร้อยละ 30

ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

 

เขียนและเรียบเรียงโดย รักพล สังษิณาวัตร 
(ทนายความรักพล)
Email: rukphons@gmail.com
Tel: 095-390-8245






แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น